โดยปกติแล้ว
หลังฝนตกใหม่ๆ นอกจากรุ้งสีสวยที่ออกมาอวดโฉม ทอดลงตามหลังคาบ้านพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ อากาศเย็นสบายที่ถูกนำพาลงมาจากก้อนเมฆข้างบน พร้อมกับเสียงนกที่เตรียมจะบินออกจากรัง
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นเอามากๆ และหลงรักบรรยากาศหลังฝนตกอย่างหัวปักหัวปำ ก็คือกลิ่นหอมที่มักจะตามมาติดๆ หลังฝนตก หลายคนเรียกว่ากลิ่นดิน
ผมเคยสงสัยว่า ทำไมไอ้กลิ่นซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่ไม่มีสเปรย์ปรับอากาศยี่ห้อไหนเลียนแบบได้อันนี้ ถึงเกิดขึ้นเฉพาะหลังฝนตกเท่านั้น ทั้งๆ ที่ ดิน ต้นไม้ ใบหญ้า มันก็วางอยู่ตรงนั้นตั้งนานก่อนที่ฝนจะตกลงมาเสียด้วยซ้ำแต่ทำไมมันถึงไม่ยอมส่งกลิ่นฟุ้ง กระจาย สดชื่น หอม อบอวล และอบอุ่น มาเสียแต่แรก
คำตอบทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบายแบบง่ายๆ คงเป็นเพราะความชื้นทำให้จมูกคนเรามีประสิทธิภาพในการรับกลิ่นได้ดีขึ้น บวกกับเม็ดฝนที่เทลงมากระทบพื้นดิน ทำให้กลิ่นของดินฟุ้งกระจายขึ้นมากระทบจมูกที่อัพเกรดแล้วด้วยความชื้นจากฝนเม็ดเดียวกัน และเหตุการณ์อันพอเหมาะลงตัวนี้ ก็นำมาซึ่งกลิ่นดินที่หอมสะกดใจคนนับครึ่งค่อนโลกมาจนทุกวันนี้
มหัศจรรย์แห่งเม็ดฝนและทฤษฎีความชื้นในโพรงจมูกที่ผมได้เรียนรู้มานี้ นอกจากจะช่วยตีแผ่ความลับของกลิ่นดินให้กระจ่างขึ้นแล้ว มันยังช่วยยัดเยียดเหตุผลให้กับข้อสงสัยบางอย่างที่รบกวนจิตใจของผมมานาน ได้อย่างจับช้างชนแกะ
คำพูดสละสลวยที่เคยได้เห็นตามบางบทกลอน หรือเคยได้ยินจากบางบทเพลง อย่างคำว่า "กลิ่นของความรัก" ที่ว่ากันว่าล่องลอยอยู่ในอากาศ หรือบ้างก็ว่าตราตรึงอยู่ในหัวใจ
เปล่าเลย ผมไม่ได้สงสัยว่าไอ้กลิ่นของความรักมันมีอยู่จริงหรือเป็นแค่คำหวานๆ ที่ช่วยเติมอารมณ์ให้กับบทกลอนหรือบทเพลง เพราะผมรู้อยู่เต็มอกว่ามันมีจริง และ"เคย"สูดดมจนเต็มปอดเป็นบางครั้งบางคราว ยิ่งกว่านั้นผมยังรู้อีกด้วยว่า บางทีกลิ่นหอมๆ ของความรัก ถึงแม้มันล่องลอยในอากาศ และหอมถึงขั้นตราตรึงอยู่ในหัวใจ แต่ก็ยังมีวันเจือจางหมดไปหรือ น่าเบื่อได้ ไม่ต่างอะไรกับน้ำหอมราคาแพงยี่ห้อดังทั้งหลาย
ดังนั้นเรื่องกลิ่นของความรัก ผมหมดความสงสัยเพราะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองจนกระจ่างแจ้งมาตั้งนานแล้ว
แต่ตอนนี้ทฤษฎีแห่งเม็ดฝนและความชื้นในโพรงจมูกได้คลายข้อสงสัยอื่นของผมที่ว่า
ทำไมพระเอก นางเอก เวลาอยู่ในกระท่อมปลายนาท่ามกลางสายฝน ถึงได้เสียกันทุกคู่
และทำไมคนอกหักในทีวีถึงต้องดั้นด้นเดินตากฝน ไปยืนเฝ้าหน้าต่างห้องนอนของเขาหรือเธอคนนั้นให้ได้
เมื่อผมเชื่อในความมีอยู่จริงแห่ง "กลิ่นของความรัก"
ความคลางแคลงนี้ของผม จึงถูกอธิบายแล้ว ด้วย "เม็ดฝนและความชื้น"
No comments:
Post a Comment