Saturday, April 17, 2010

น้ำหอมขวดเก่า

น้ำหอมขวดเก่า ขวดนี้

เคยเห็นตรงกันว่ากลิ่นของมันหอมหวล

ประทับใจ

จนต้องฉีดพรมบนร่างกาย ทุกครั้งก่อนที่จะเจอกัน



น้ำหอมขวดเก่า ขวดนี้

ถึงวันนี้ แม้จะเหลือเพียงครึ่ง

กลิ่นยังคงเดิม

ไม่เปลี่ยนแปลง



น้ำหอมขวดเก่า ขวดนี้

ถึงวันนี้ แม้กลิ่นจะคงหอมเช่นเดิม

แต่บางคน กลับรู้สึกเฉยชิน ไม่ได้กลิ่น

เบื่อหน่ายจนอาจเบือนหน้าหนี



จะโยนทิ้งเพื่อหาขวดใหม่ กลิ่นใหม่ เพื่อสร้างความประทับใจใหม่

หรือจะเลือกไปตามหาใคร ที่ยังคงคิดว่ากลิ่นนี้ ยังหอมอยู่



บางสิ่งถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง

ถึงแม้น้ำหอมขวดเก่า ขวดนี้ กลิ่นจะยังคงหอมอยู่เหมือนเดิม

ด้วยเม็ด ฝน และความชื้น

โดยปกติแล้ว

หลังฝนตกใหม่ๆ นอกจากรุ้งสีสวยที่ออกมาอวด
โฉม ทอดลงตามหลังคาบ้านพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ อากาศเย็นสบายที่ถูกนำพาลงมาจากก้อนเมฆข้างบน พร้อมกับเสียงนกที่เตรียมจะบินออกจากรัง

อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมรู้
สึกสดชื่นเอามากๆ และหลงรักบรรยากาศหลังฝนตกอย่างหัวปักหัวปำ ก็คือกลิ่นหอมที่มักจะตามมาติดๆ หลังฝนตก หลายคนเรียกว่ากลิ่นดิน

ผมเคยสงสัยว่า ทำไมไอ้กลิ่นซึ่งมีเอกลักษณ
์เฉพาะตัวแบบที่ไม่มีสเปรย์ปรับอากาศยี่ห้อไหนเลียนแบบได้อันนี้ ถึงเกิดขึ้นเฉพาะหลังฝนตกเท่านั้น ทั้งๆ ที่ ดิน ต้นไม้ ใบหญ้า มันก็วางอยู่ตรงนั้นตั้งนานก่อนที่ฝนจะตกลงมาเสียด้วยซ้ำแต่ทำไมมันถึงไม่ยอมส่งกลิ่นฟุ้ง กระจาย สดชื่น หอม อบอวล และอบอุ่น มาเสียแต่แรก

คำตอบทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบ
ายแบบง่ายๆ คงเป็นเพราะความชื้นทำให้จมูกคนเรามีประสิทธิภาพในการรับกลิ่นได้ดีขึ้น บวกกับเม็ดฝนที่เทลงมากระทบพื้นดิน ทำให้กลิ่นของดินฟุ้งกระจายขึ้นมากระทบจมูกที่อัพเกรดแล้วด้วยความชื้นจากฝนเม็ดเดียวกัน และเหตุการณ์อันพอเหมาะลงตัวนี้ ก็นำมาซึ่งกลิ่นดินที่หอมสะกดใจคนนับครึ่งค่อนโลกมาจนทุกวันนี้

มหัศจรรย์แห่งเม็ดฝนและทฤษฎ
ความชื้นในโพรงจมูกที่ผมได้เรียนรู้มานี้ นอกจากจะช่วยตีแผ่ความลับของกลิ่นดินให้กระจ่างขึ้นแล้ว มันยังช่วยยัดเยียดเหตุผลให้กับข้อสงสัยบางอย่างที่รบกวนจิตใจของผมมานาน ได้อย่างจับช้างชนแกะ

คำพูดสละสลวยที่เคยได้เห็นต
ามบางบทกลอน หรือเคยได้ยินจากบางบทเพลง อย่างคำว่า "กลิ่นของความรัก" ที่ว่ากันว่าล่องลอยอยู่ในอากาศ หรือบ้างก็ว่าตราตรึงอยู่ในหัวใจ

เปล่าเลย ผมไม่ได้สงสัยว่าไอ้กลิ่นขอ
งความรักมันมีอยู่จริงหรือเป็นแค่คำหวานๆ ที่ช่วยเติมอารมณ์ให้กับบทกลอนหรือบทเพลง เพราะผมรู้อยู่เต็มอกว่ามันมีจริง และ"เคย"สูดดมจนเต็มปอดเป็นบางครั้งบางคราว ยิ่งกว่านั้นผมยังรู้อีกด้วยว่า บางทีกลิ่นหอมๆ ของความรัก ถึงแม้มันล่องลอยในอากาศ และหอมถึงขั้นตราตรึงอยู่ในหัวใจ แต่ก็ยังมีวันเจือจางหมดไปหรือ น่าเบื่อได้ ไม่ต่างอะไรกับน้ำหอมราคาแพงยี่ห้อดังทั้งหลาย

ดังนั้นเรื่องกลิ่นของความ
ัก ผมหมดความสงสัยเพราะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองจนกระจ่างแจ้งมาตั้งนานแล้ว

แต่ตอนนี้ทฤษฎีแห่งเม็ดฝนแล
ะความชื้นในโพรงจมูกได้คลายข้อสงสัยอื่นของผมที่ว่า

ทำไมพระเอก นางเอก เวลาอยู่ในกระท่อมปลายนาท่า
มกลางสายฝน ถึงได้เสียกันทุกคู่
และทำไมคนอกหักในทีวีถึงต้อ
งดั้นด้นเดินตากฝน ไปยืนเฝ้าหน้าต่างห้องนอนของเขาหรือเธอคนนั้นให้ได้

เมื่อผมเชื่อในความมีอยู่จร
งแห่ง "กลิ่นของความรัก"

ความคลางแคลงนี้ของผม จึงถูกอธิบายแล้ว ด้วย "เม็ดฝนและความชื้น"